รีวิว Segway Ninebot ES2: ภาพรวม

บทวิจารณ์ Segway Ninebot ES2 นี้ให้รายละเอียดหนึ่งในสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมที่สุด ในสกุ๊ตเตอร์ขนาดกลาง และในปัจจุบัน ES2 เป็นสกุ๊ตเตอร์ที่หมาะกับการใช้งานในระยะทางที่สั้น ไม่ไกลมากซึ่งถือได้ว่าการออกแบบและการสร้างคุณภาพดี แต่โดยรวมแล้วเราไม่คิดว่ามันคุ้มค่า

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค

• ทดสอบความเร็วสูงสุด: 25.8 กม./ชม
• ระยะทดสอบ: 15.8 กม. *
• น้ำหนัก: 13 กก
• น้ำหนักผู้ขับขี่สูงสุด: 100 กก
• การกันน้ำ: IP54

ไฮไลท์

• การออกแบบที่เป็นที่นิยม
• การออกแบบที่ทันสมัย และโดดเด่น
• เกินราคาสำหรับชุดคุณลักษณะ
• อืดมาก
• คุณภาพการขับขี่ไม่ดี

* จากการทดสอบประสิทธิภาพของเราซึ่งอาจแตกต่างจากการกล่าวอ้างของผู้ผลิต

สรุป

Segway ES2 เป็นสกู๊ตเตอร์ยอดนิยมที่มีราคาสูงกว่าคู่แข่งมาก หลังจากทดลองขี่สกูตเตอร์คันนี้ไปหลายไมล์และพิจารณาคุณสมบัติทั้งหมดอย่างละเอียดแล้วเราก็ทำให้เรางงเล็กน้อยว่ามันจะเป็นสกู๊ตเตอร์ยอดนิยมได้อย่างไร คำอธิบายเดียวที่สมเหตุสมผลคือจุดแข็งของการจดจำชื่อเนื่องจากแบรนด์ Segway

รีวิว Ninebot ES2 บทนำ

Segway (ซื้อโดย Ninebot ในปักกิ่งในปี 2015) เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในอุตสาหกรรมสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ Segway Ninebot มีอยู่ทั่วไป ส่วนใหญ่พวกเขามีการออกแบบและคุณภาพที่ดี แต่มีคุณสมบัติที่ไม่ดีนักเมื่อเปรียบเทียบกับราคาของพวกเขา (ยกเว้น Ninebot Max)

การทดสอบประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ด้านล่างมาจากการทดสอบอิสระของเราไม่ใช่ข้อมูลจากผู้ผลิต

เช่นเดียวกับสกูตเตอร์ไฟฟ้าหลายรุ่นที่พยายามเพิ่มระยะให้สูงสุด ES2 จะต้องเริ่มต้น แม้ว่าเราจะคาดหวังว่ามอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 300 วัตต์บนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขนาด 13 กก. จะค่อนข้างเร็ว แต่การเร่งความเร็วก็ค่อนข้างเฉื่อยชา

ในระหว่างการทดสอบการเร่งความเร็ว Ninebot ES2 เดินจาก 0 เป็น 24 กม. ชม. ใน 7.1 วินาทีช้ากว่า M365 เกือบหนึ่งวินาที (6.3 วินาที) จริง ๆ แล้ว ES2 ช้ากว่าเพื่อนที่ถูกกว่ามอเตอร์ขนาดเล็ก (250 วัตต์) Xiaomi M365

ในด้านบวกมอเตอร์จะเงียบมาก

ปีนเขา

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 เป็นสกู๊ตเตอร์ที่แย่มากสำหรับการปีนเขา ในเมืองที่มีเนินเขาจำนวนเท่าใดก็จะไม่เพียงพอทั้งหมด

อันที่จริง ES2 เป็นสกู๊ตเตอร์ที่ช้าที่สุดที่เราเคยทดสอบ ใช้เวลา 20.8 วินาทีในการทดสอบการไต่เขาระดับ 60 เมตร 10% ด้วยผู้ขับขี่ 74 กก.

สำหรับการเปรียบเทียบ M365 ราคาถูกกว่าจะเสร็จสิ้นการทดสอบนี้ใน 20.8 วินาที

ความเร็วสูงสุด

ความเร็วสูงสุดของ Segway Ninebot ES2 คือ 25.8 กม. ต่อชั่วโมงตามการทดสอบความเร็วสูงสุดที่ติดตามด้วย GPS

พิสัย

Segway Ninebot ES2 มีระยะ 15.8 กิโลเมตรตามการทดสอบในโลกแห่งความเป็นจริงของเรา เราทดสอบสกูตเตอร์ทั้งหมดบนวงทดสอบในเมืองเดียวกันกับผู้ขับขี่ 74 กก. คนเดียวกัน ลูปมีการหยุด / เริ่มและเนินบ่อยครั้ง ขี่สกู๊ตเตอร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในโหมดที่เร็วที่สุด (ประหยัดพลังงานน้อยที่สุด)

ช่วงที่ค่อนข้างสั้นนี้ไม่น่าแปลกใจเนื่องจาก ES2 มีแบตเตอรี่เพียง 187 วัตต์ต่อชั่วโมง M365 ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ใกล้ที่สุดมีแบตเตอรี่ 280 วัตต์ต่อชั่วโมงและทำได้ 23.5 กิโลเมตรในการทดสอบระยะจริงของเรา

ซึ่งน้อยกว่าระยะ 26 กิโลเมตรที่ Segway รายงานภายใต้สภาวะที่เหมาะสม

เบรก

Ninebot ES2 มีเบรกแบบปฏิรูปด้านหน้าและเบรกเท้าหลัง เบรกทั้งสองแบบนี้ไม่ได้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ

หากต้องการหยุดให้เร็วขึ้นคุณต้องใช้เบรกเท้าหลังซึ่งคุณต้องเลื่อนน้ำหนักส่วนใหญ่ไปที่ขาข้างเดียว ในสถานการณ์ฉุกเฉินนี่ไม่ใช่การซ้อมรบที่รวดเร็ว

ในระหว่างการทดสอบเบรกของเรา ES2 หยุดลงจาก 24 กม. ชม. ใน 5.3 เมตรโดยใช้ทั้งเบรคแบบอิเล็กทรอนิกส์และเบรคหลัง การใช้เบรกอิเล็กทรอนิกส์เพียงอย่างเดียวสกูตเตอร์ใช้เวลามากกว่า 11 เมตรในการหยุด

คุณภาพการขับขี่

Segway ES2 มีคุณภาพการขับขี่ที่ไม่ดีเนื่องจากยางแข็งมาก (ระบบสุญญากาศ) และระบบกันสะเทือน ค่อนข้างไม่ดีมากนัก เนื่องจากเป็นล้อแบบยางตันจึงส่งผลให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างมาก มันทำงานได้แย่กว่าสกูตเตอร์ที่มียางลม แต่ไม่มีระบบกันสะเทือน

แม้ว่าระบบกันสะเทือนจะให้ความรู้สึกนุ่มนวลเมื่อคุณขับขี่ แต่จะมีเสียงกระแทกดังทุกครั้งที่คุณเหยียบหรือมีรอยแตกขนาดใหญ่บนถนน นอกจากนี้ยังเขย่าอย่างต่อเนื่องบนถนนที่ขรุขระ มันค่อนข้างน่าอายที่มีสกู๊ตเตอร์เสียงง่อนแง่นที่ดังพอที่คนรอบข้างจะได้ยิน

แม้จะมีระบบกันสะเทือนที่ไม่ดี แต่สกู๊ตเตอร์ก็ให้ความรู้สึกดีในการขับขี่บนถนนเรียบและว่องไว

การพกพา

ES2 เป็นสกู๊ตเตอร์แบบพกพา แต่มีก้านขนาดใหญ่ซึ่งมีทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางและความยาวที่ใหญ่กว่า 5 เซนติเมตรเมื่อเทียบกับสกูตเตอร์รุ่นเดียวกัน ES2 มีขนาดพับ 112 เซนติเมตร 43 เซนติเมตร 30 เซนติเมตร ก้านพับ แต่แฮนด์ไม่ได้

เส้นผ่านศูนย์กลางก้านขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของแบตเตอรี่ทำให้สกู๊ตเตอร์ทั้งแข็งและแข็งแรงขึ้น แต่ยังทำให้พกพาได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับสกูตเตอร์อื่น ๆ เมื่อพับแล้วมือของผู้ใหญ่โดยเฉลี่ยจะไม่พันรอบก้านที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ทำให้สกู๊ตเตอร์ยุ่งยากมากขึ้น

เพื่อให้เรื่องแย่ลงจุดสมดุลจะอยู่ด้านบนของส่วนที่ยกขึ้น (พอร์ตชาร์จ) ของก้านที่มีขนาดใหญ่อยู่แล้วทำให้หาได้ง่าย แต่ไม่ถูกหลักสรีรศาสตร์

นอกจากนี้ก้านยังยาวกว่าสกูตเตอร์รุ่นเดียวกันประมาณ 5 เซนติเมตร สิ่งนี้อาจฟังดูไม่มากนัก แต่มันใหญ่เกินไปเล็กน้อยที่จะใส่ในท้ายรถและรถเก๋งขนาดกลางในขณะที่สกูตเตอร์อื่น ๆ ทุกคันก็ใส่ได้โดยไม่มีปัญหา เราต้องจัดเรียงรายการอื่น ๆ ที่ด้านหลังของท้ายรถเพื่อวางให้ได้มุม

ก้านและแฮนด์ให้ความรู้สึกแข็งแรงและแข็งมาก ไม่มีก้านโยกเยก อย่างไรก็ตามเราไม่ชอบการออกแบบกลไกการล็อคก้านที่ดูเหมือนว่าจะยุบลงโดยไม่ได้ตั้งใจ (แม้ว่าเราจะไม่ได้อ่านรายงานใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้)

หน้าปัด

หน้าปัดและแฮนด์จับได้รับการออกแบบอย่างสวยงามดูดีและมีผิวสัมผัสที่มีคุณภาพสูง

คุณสมบัติตรงกลางของหน้าคือจอ LCD ที่สว่างสดใส คุณสามารถดูความเร็วและพลังงานแบตเตอรี่ได้ในแสงแดดโดยตรง อย่างไรก็ตามไอคอนโหมดพลังงานซึ่งเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดงนั้นยากที่จะมองเห็น

คันเร่งให้ความรู้สึกดีและมีการทำงานของกลไกที่ดี มันไวต่อการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ด้วยพลังที่ขาดความดแจ่มใสเรามักจะผลักดันให้สูงสุด การควบคุมเบรกจะคล้ายกัน แต่มีความไวน้อยกว่าและมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยระหว่างการผลักเพียงเล็กน้อยและการดึงออกสูงสุด

ไฟ

ES2 มีทั้งไฟหน้า LED ทรงสูงและไฟท้ายสีแดง นอกจากนี้ยังมีแถบ LED ใต้พื้นระเบียงที่เรียกว่า “เอฟเฟกต์พื้น” หรือ “แสงย้อย” ควบคุมไฟได้อย่างง่ายดายโดยกดปุ่มเปิด / ปิดอย่างรวดเร็วเมื่อสกู๊ตเตอร์เปิดอยู่

ไฟท้ายติดตั้งอยู่ที่ล้อด้านหลังของสกู๊ตเตอร์ เนื่องจากติดตั้งไว้ที่มุมจึงยากที่จะมองเห็นสกู๊ตเตอร์เมื่อคุณอยู่ด้านหลังโดยตรง อย่างไรก็ตามการมองเห็นจากด้านข้างดี

หนึ่งในคุณสมบัติที่ดีที่สุดของสกู๊ตเตอร์คือเอฟเฟกต์กราวด์ (ไฟส่องพื้น) ที่มาจาก LED หลากสี 16 ดวงที่ด้านล่างของสกู๊ตเตอร์ ไฟมีโหมดสีและความถี่ที่หลากหลาย – ที่เราชอบที่สุดคือโหมด“ ไฟกระพริบ” ที่ไฟจะค่อยๆส่องสว่างและมืดลงเมื่อปิดเครื่องสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ES2

ไม่เพียงแต่เท่เท่านั้น แต่ยังทำให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ตอนกลางคืน

หากคุณขี่สกูตเตอร์รุ่นนี้บ่อยครั้งในเวลากลางคืนคุณอาจต้องพิจารณาอัพเกรดไฟบางอย่าง

ขนาดล้อ และยาง

Segway ES2 มีล้อเป็นล้อ แบบยางตัน ซึ่งหมายถึงไม่มียางใน และล้อมีขนาดมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 20.3 เซนติเมตร พวกเขาทำจากสารประกอบที่ค่อนข้างแข็งซึ่งไม่นิ่มนวลเหมือนยางแบบไร้สุญญากาศอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่า ล้อแบบยางตันนี้ จะทำให้เวลาขับขี่มีแรงสั่นสะเทือนมาก และการยึดเกาะที่ไม่ดี

สามารถเปลี่ยนยางได้เมื่อสึกหรอ แต่ล้อหน้าค่อนข้างมีขั้นตอนในการเปลี่ยน และถอดชิ้นส่วน ค่อนข้างยาก ต้องใช้เครื่องมือ และมีความชำนาญ พอสมควรจึงจะสามารถเปลี่ยน หรือถอดชิ้นส่วนมอเตอร์ล้อหน้าทั้งหมดได้

ประโยชน์ของยางไร้อากาศคือไม่ต้องกังวลเรื่องยางแบน หรือยางรั่ว

วิธีการขับขี่

ที่เหยียบขนาดประมาณ 40.6 เซนติเมตรซึ่งเหมือนกับ Xiaomi จากนั้นมีการค่อยๆยกพื้นขึ้นที่ด้านหน้าสองสามนิ้วแรกที่ใช้งานได้ นี่เป็นคุณสมบัติการออกแบบที่ยอดเยี่ยมที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการขับขี่โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดโดยรวมของสกู๊ตเตอร์

การรับประกัน / การสนับสนุนหลังการซื้อ

ผู้ผลิตไม่รับประกันหากซื้อจากผู้ขายในต่างประเทศอย่างไรก็ตามมีร้านค้าและผู้จำหน่ายชิ้นส่วนมากมายที่สามารถซ่อมสกู๊ตเตอร์ได้ในราคาไม่แพง

สร้างคุณภาพ

บรรจุภัณฑ์ไม่ได้รับการบรรจุในคุณภาพที่ดีเท่าที่ควร กระดาษหรือวัศดุที่ใช้ในการบรรจุควรเป็นวัสดุที่เป็นฉนวนกันความร้อน สิ่งเหล่านี้เป็นเคล็ดลับในการรักษาสกู๊ตเตอร์มีรูปร่างดี และสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังมีคู่มือมีให้ในภาษาต่างๆมากมายและมีคำแนะนำที่ชัดเจนในการประกอบและข้อควรระวังด้านความปลอดภัยเมื่อขี่

ES2 ได้รับความนิยม และความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่าสกูตเตอร์แบรนด์เนมรายใหญ่อื่น ๆ ซึ่งในราคาระดับเดียวกับ ES2 คุณภาพของสกุ๊ตเตอร์แบรนด์อื่นๆ ก็ไม่ได้สูงกว่ากันมากนัก  หรือไม่ด้อยคุณภาพไปกว่ากันมากจนเกินไป

Ninebot ES2 กันน้ำได้หรือไม่?

Ninebot ES2 ไม่กันน้ำ แต่กันน้ำได้ มีระดับ IP54 ซึ่งหมายความว่าสามารถทนต่อละอองน้ำได้จากทุกทิศทาง แต่ไม่สามารถจมน้ำได้ การสัมผัสกับน้ำเป็นเวลานานจะทำให้ ES2 เสียหายและจะไม่อยู่ภายใต้การรับประกันของ Ninebot

เราชอบรูปลักษณ์ของ ES2 คิดว่าการออกแบบนั้นดีและผลิตมาอย่างดี ความพอดีและเสร็จสิ้นนั้นยอดเยี่ยมมาก เราหวังว่าอย่างน้อยสกูตเตอร์ทุกคนจะดีเท่ากับ ES2 ในแง่เหล่านี้

อย่างไรก็ตามเราถือว่าสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ไม่ควรซื้อด้วยเหตุผลสามประการ:

• ราคา
• ชุดคุณลักษณะ
• การซ่อมแซม

โดยทั่วไปแล้ว Segway ES2 จะมีราคาประมาณ 589 เหรียญซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดที่เราเคยเห็นสำหรับข้อกำหนดเหล่านี้ แม้ว่าจะมีคุณภาพใกล้เคียงกับสกูตเตอร์ในคลาสนี้ (Mi M365, GXL V2) แต่ก็ไม่ใช่หนึ่งในคุณสมบัติที่ดีที่สุด

ยางแบบไม่ใช้ระบบสุญญากาศทำจากยางที่แข็งกว่าซึ่งให้การยึดเกาะที่ไม่ดีไม่มีกลไกการเบรกที่แข็งแรงมอเตอร์ 300 วัตต์ช้ากว่าสกูตเตอร์ 250 วัตต์และแบตเตอรี่ขนาดเล็ก 187 วัตต์ต่อชั่วโมงให้ระยะทางเพียง 15.8 กิโลเมตร

และสุดท้ายสำหรับการซ่อมแซม ES2 จะได้รับ F ชิ้นส่วนทดแทนนั้นโดยพื้นฐานแล้วไม่มีอยู่จริงและการซ่อมแซมส่วนใหญ่ทำได้ค่อนข้างยาก ถ้าสิ่งนี้พังมันจะส่งผลต่อไปยังชิ้นส่วน  หรือ ปัญหาอื่นอีก 1-2 ส่วน ซึ่งโดยมากแล้วก็ไม่สามารถซ่อมได้อีกต่อไป นอกจากต้องทิ้งไปเลย

หากคุณเชื่อว่า ES2 ไม่ใช่สกู๊ตเตอร์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณโปรดดูทางเลือกอื่นที่เราแนะนำ